Your cart is currently empty!
Author: Thinker Friend

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัญหาผู้อพยพและแรงงานผิดกฎหมายเป็นประเด็นร้อนแรงทั้งในสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีภูมิหลังและโครงสร้างสังคมที่แตกต่างกัน แต่ทัศนคติของคนอเมริกันที่มีต่อแรงงานผิดกฎหมายกลับมีความคล้ายคลึงกับทัศนคติของคนไทยที่มีต่อแรงงานข้ามชาติจากพม่า กัมพูชา และลาว ประเด็นนี้สะท้อนอะไรเกี่ยวกับสังคมเรา? และเราควรพิจารณามันจากมุมมองใด? แรงงานต่างด้าว: ตัวปัญหาหรือฟันเฟืองของเศรษฐกิจ? หนึ่งในข้อกังวลหลักของทั้งชาวอเมริกันและคนไทย คือความเชื่อว่าแรงงานต่างด้าวเข้ามา “แย่งงาน” คนในประเทศ และกดค่าแรงให้ต่ำลง แต่ข้อเท็จจริงก็คือ งานที่แรงงานเหล่านี้ทำส่วนใหญ่มักเป็นงานที่คนท้องถิ่นไม่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้าง งานเกษตรกรรม หรือภาคบริการที่ต้องใช้แรงงานหนัก ในสหรัฐฯ แรงงานผิดกฎหมายถูกใช้เป็นกำลังหลักในอุตสาหกรรมอาหารและเกษตร ในขณะที่ในไทย แรงงานพม่าถือเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมประมงและงานก่อสร้าง ทว่าในขณะที่ภาคธุรกิจพึ่งพิงแรงงานข้ามชาติเหล่านี้ คนในสังคมกลับมองพวกเขาเป็นภาระของรัฐ นี่คือความย้อนแย้งที่เราต้องยอมรับ หากไม่มีแรงงานเหล่านี้ ค่าครองชีพของประชาชนในประเทศจะพุ่งสูงขึ้น เพราะธุรกิจจะต้องขึ้นค่าแรงเพื่อจ้างแรงงานในประเทศ

มวยไทยได้รับการยกย่องว่าเป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศไทย และกำลังถูกผลักดันให้เป็น มรดกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก อย่างไรก็ตาม เส้นทางของมวยไทยสู่ระดับโลกยังคงเผชิญกับความท้าทายที่ต้องได้รับการแก้ไข ล่าสุด นายสามารถ มะลูลีม ในฐานะนายกสมาคมกีฬามวยไทยนานาชาติ อดีตรองประธานกรรมาธิการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร โดยในปัจจุบันเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจําสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยในรายการ “กรรมาธิการเพื่อประชาชน” ทางวิทยุรัฐสภา FM 87.5 และทางช่องทางออนไลน์ Podcast TPradio เปิดเผยเกี่ยวกับอดีต ปัจจุบัน และแนวทางพัฒนามวยไทยในอนาคต เน้นถึงความสำคัญของการรักษาเอกลักษณ์ของมวยไทย ในขณะที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการแข่งขันระดับสากล โดยวันนี้ thinkerfriend

ในรายการ Living With AI EP.2 ได้เชิญ นิ้วกลม นักคิดนักเขียนชั้นนำของไทย ดร.พีพี พัทน์ ภัทรนุธาพร นักวิทยาศาสตร์จาก MIT Media Lab และ ดร.ต้า วิโรจน์ จิรพัฒนกุล ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI (Google Developer Expert ด้าน Machine Learning)มาพูดคุยเกี่ยวกับประเด็น เจาะลึกทุกแง่มุมของโลกยุคที่ AI ‘ถามอะไรก็ตอบได้’

DeepSeek AI สตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์จากจีน ได้กลายเป็นผู้เล่นสำคัญในเวที AI ระดับโลก ท้าทายความเป็นผู้นำของยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากสหรัฐฯ อย่าง OpenAI และก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันทางเทคโนโลยีระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งบางคนเปรียบเทียบสถานการณ์นี้กับ “สงครามเย็นด้าน AI” ครั้งใหม่ ความก้าวหน้าของ DeepSeek DeepSeek ได้เปิดตัวโมเดล AI ล่าสุดชื่อ R1 หรือ DeepSeek-R1-Zero ซึ่งได้รับการยกย่องในด้านประสิทธิภาพและต้นทุนที่ต่ำกว่าโมเดลจากฝั่งสหรัฐฯ โดยโมเดลนี้สามารถพัฒนาได้ด้วยการใช้ทรัพยากรชิปจำนวนน้อยและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าอย่างมาก—โดยมีรายงานว่าการฝึกโมเดลใช้เงินไม่ถึง 6 ล้านดอลลาร์ เทียบกับหลายร้อยล้านดอลลาร์ที่บริษัทในสหรัฐฯ อย่าง

น่าสนใจสำหรับ 🚀สมาชิกวุฒิสภาชุดนี้ ในการร่วมกันผลักดันและขับเคลื่อนสังคม และร่วมกันแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทางวุฒิสภาก็ได้นำปัญหาแรงงานต่างด้าวมาถกในที่ประชุมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ควรจัดการให้เด็ดขาด และขับไล่ออกจากประเทศ พร้อมจี้ไปยังหน่วยงานที่ไร้การเข้มงวดปล่อยละเลยจนไปสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งอาชญากรรม และปัญหาการแย่งงานคนไทยนับวันยิ่งหยั่งลึก ซึ่งยังต้องเร่งแก้ไขปัญหาแบบเอาจริงเอาจังเสียที ล่าสุดฝั่ง สว.เอกชัย ซึ่งให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจ นำคณะกรรมาธิการพาณิชย์ฯ ประชุมร่วมกับหน่วยงานฯ ถกปัญหาและเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้ต่างด้าว และขับเคลื่อนพัฒนาแพลตฟอร์ม thinkerfriend นำข้อสรุปที่น่าสนใจมาให้อ่านกันครับ โดย นายเอกชัย เรืองรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการคนที่หนึ่ง พร้อมด้วยกรรมาธิการ อนุกรรมาธิการ และที่ปรึกษา ได้เข้าหารือกับกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง และบริษัท

การเสวนาในหัวข้อ “Assets: From Concrete to Ether” บนเวที World Economic Forum 2024 ได้เปิดประเด็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสินทรัพย์ในตลาดการเงินจากรูปแบบดั้งเดิมสู่สินทรัพย์ดิจิทัลผ่านกระบวนการ Tokenization โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมระดับโลก ซึ่งชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตและการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ในหลากหลายภาคธุรกิจ ขอทำความเข้าใจ Tokenization เป็นขั้นตอนสำคัญใน Natural Language Processing (NLP) ที่ช่วยแบ่งข้อความออกเป็นหน่วยย่อย เพื่อให้ระบบ AI, Machine Learning และคอมพิวเตอร์สามารถทำงานกับข้อความได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการแปลภาษา, วิเคราะห์ข้อมูล,

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 68 ที่ผ่านมา ได้มีการประชุมวุฒิสภา โดย สว.ปริญญา ได้สะท้อนปัญหาและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผลกระทบและปัญหาอาชญากรรมจากชาวต่างชาติที่มาอาศัยแบบผิดกฎหมาย นานวันยุ่งทวีความรุนแรง ไร้การควบคุม ชี้กลไกรัฐที่ยังบกพร่อง ละเลยในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจึง โดยมีชาวเน็ตต่าง ต่างเข้ามาคอมเม้นให้กำลังใจและเห็นด้วยกับ สว.ปริญญา มากกว่า 200 คอมเม้นท์ หลายข้อความชื่นชม สว.กล้าพูดในสิ่งที่ประชาชนเดือดร้อน เห็นด้วยที่หน่วยงานปล่อยละเลยไม่เด็ดขาด จี้ดำเนินการจริงจัง ก่อนจะเกิดเหตุรุนแรง รับชม สว.ปริญญา ย้อนหลังได้ทาง https://www.youtube.com/watch?v=JBCJfMXZH3g&t=2s

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐบาลจะกระจายอำนาจให้กรุงเทพมหานคร? “ลูก ใส่แมสไว้นะ ฝุ่นพิษมันเยอะ มันอันตราย!” เสียงที่ห่วงใย ของแม่กับพ่อที่คอยบอกลูกๆ ก่อนออกจากบ้าน เชื่อหรือไม่คำนี้ ล้วนเกิดขึ้นจริง..แทบทุกบ้าน และแทบทุกครอบครัว นี่คือความกังวลต่อสถานการณ์ฝุ่นควันพิษ PM 2.5 ที่สื่อมวลชนทุกสำนักตีข่าวข้อเท็จจริงแทบทุกวัน ฝุ่น PM2.5 ภัยเงียบจากท้องถนน สู่วิกฤตสุขภาพคนเมือง วันนี้ยังคงเป็นประเด็นร้อนแรงและเป็นวาระของชาติเกี่ยวกับปัญหาฝุ่นพิษที่พุ่งสูง ทุกภาคส่วนทั้งรัฐบาล และท้องถิ่น ออกมาตรการทั้งควบคุมการเผาป่า เผาไร่อ้อย การควบคุมโรงงานและอุตสาหกรรม แต่เรื่องสำคัญที่ต้องพูดถึงคือปัญหายานยนตร์ที่กำลังพ่นมลพิษในเขตเมือง โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งล่าสุด ผู้ว่าฯกทม. กล่าวผ่านสื่อมวลชนว่าพยายามแก้ปัยหาในหลายๆด้าน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกได้ตระหนักถึงภัยคุกคามจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ส่งผลให้คุณภาพอากาศในหลายพื้นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เอเชีย จีน จีนถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่โดดเด่นในการจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5 ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี (2013-2017) จีนสามารถลดความเข้มข้นของ PM2.5 ลงได้ถึง 33% ในกรุงปักกิ่งและ 15% ในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล ในภาพรวมทั้งประเทศ ระดับ PM2.5 ลดลงถึง 57% ระหว่างปี 2013-2022 เกาหลีใต้ เกาหลีใต้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่แหล่งกำเนิดหลักของฝุ่น PM2.5 เป้าหมาย:

สำหรับการแข่งขันนกกรงหัวจุกในปัจจุบันยังคงเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงและผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญดังนี้: ความพยายามในการปลดล็อกสถานะทางกฎหมาย ปัจจุบันนกกรงหัวจุกยังคงมีสถานะเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ซึ่งสร้างความยากลำบากให้กับผู้เลี้ยงและผู้จัดการแข่งขัน มีการเรียกร้องให้ปลดล็อกสถานะนี้เพื่อส่งเสริมการเพาะเลี้ยงและการแข่งขันอย่างถูกกฎหมาย การจัดการแข่งขันในรัฐสภา เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2568 ได้มีการจัดการแข่งขันนกกรงหัวจุกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ณ อาคารรัฐสภา โดยมีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานในพิธีเปิด การจัดงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้มีการปลดล็อกนกกรงหัวจุกจากบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ศักยภาพทางเศรษฐกิจ มีการประมาณการว่านกกรงหัวจุกสามารถสร้างรายได้ถึง 2 หมื่นล้านบาท และหากมีการปลดล็อกอาจเพิ่มขึ้นอีก 2-3 เท่า นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดในการส่งเสริมให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์และส่งออกไปยังต่างประเทศ บทบาทของสามารถ มะลูลีม
Twenty Twenty-Five
email@example.com
+1 555 349 1806