ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายประเทศทั่วโลกได้ตระหนักถึงภัยคุกคามจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 และดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ส่งผลให้คุณภาพอากาศในหลายพื้นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เอเชีย จีน
จีนถือเป็นตัวอย่างความสำเร็จที่โดดเด่นในการจัดการปัญหาฝุ่น PM2.5
- ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ 5 ปีเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศ ตั้งแต่ปี 2556-2560
- ลดการพึ่งพาถ่านหิน ควบคุมการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะ เพิ่มการผลิตพลังงานหมุนเวียน และเข้มงวดในการบังคับใช้มาตรฐานการปล่อยมลพิษ
- ปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินเก่าและห้ามสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินใหม่ในพื้นที่มลพิษสูง
- กำจัดรถยนต์เก่าที่ปล่อยมลพิษสูงกว่า 20 ล้านคัน
- ปิดหรือปรับเปลี่ยนโรงงานกว่า 60,000 แห่งให้ได้มาตรฐาน
- ใช้ระบบจำกัดการใช้รถยนต์ด้วยเลขทะเบียนคู่-คี่
ภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี (2013-2017) จีนสามารถลดความเข้มข้นของ PM2.5 ลงได้ถึง 33% ในกรุงปักกิ่งและ 15% ในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล ในภาพรวมทั้งประเทศ ระดับ PM2.5 ลดลงถึง 57% ระหว่างปี 2013-2022
เกาหลีใต้
เกาหลีใต้มุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่แหล่งกำเนิดหลักของฝุ่น PM2.5
- ห้ามรถยนต์ดีเซลรุ่นเก่าเข้าเมืองหลวง
- จำกัดการใช้รถยนต์ส่วนตัวของพนักงานรัฐ
- ปิดลานจอดรถของหน่วยงานรัฐกว่า 360 แห่ง
- ปรับขึ้นภาษีรถยนต์ดีเซล
- ทยอยปิดโรงไฟฟ้าถ่านหินเก่าทั่วประเทศ
- ควบคุมการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อน
เป้าหมาย: ลดปริมาณฝุ่น PM2.5 ลง 35% ภายในปี 2567
ยุโรป
หลายเมืองในยุโรปใช้มาตรการ Clean Air Policy Package
ลอนดอน, สหราชอาณาจักร
- เก็บค่าธรรมเนียมสูงจากรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษสูงเข้าเขตเมือง (ประมาณ 50,000 บาทต่อวัน)
วอร์ซอ, โปแลนด์
- ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ 165 จุดทั่วเมือง (เครือข่ายใหญ่ที่สุดในยุโรป)
- วางแผนยกเลิกการใช้ถ่านหินเพื่อทำความร้อน
- กำหนดเขตปล่อยมลพิษต่ำภายในปี 2567
อัมสเตอร์ดัม, เนเธอร์แลนด์
- ใช้ “แผนปฏิบัติการฟ้าใส” มุ่งเน้นควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษที่เทศบาลสามารถจัดการได้
- ให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ขับรถเพื่อการพาณิชย์ประจำ เช่น แท็กซี่
- จัดโครงการเปลี่ยนรถเก่าเป็นรถใหม่
- จัดที่จอดรถพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า
- เพิ่มจุดชาร์จไฟสาธารณะจาก 3,000 จุด เป็น 16,000 จุดในปี 2568 และ 23,000 จุดในปี 2573
มาตรการเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาที่แหล่งกำเนิด ควบคู่ไปกับการสร้างแรงจูงใจและการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
จะเกิดอะไรขึ้น หากละเลยการแก้ไขปัญหา PM2.5
การศึกษาในหลายประเทศชี้ให้เห็นถึงผลกระทบร้ายแรงหากไม่มีการแก้ไขปัญหา PM2.5 อย่างจริงจัง:
- ผลกระทบต่อสุขภาพ: การสัมผัสกับ PM2.5 เป็นเวลานานส่งผลให้อายุขัยลดลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและปอด
- ผลกระทบทางเศรษฐกิจ: ในประเทศเนปาล พบว่าต้นทุนทางเศรษฐกิจจากมลพิษทางอากาศสูงถึงกว่า 6% ของ GDP
- ผลกระทบต่อการศึกษาและการท่องเที่ยว: มลพิษทางอากาศส่งผลกระทบต่อภาคการศึกษาและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของหลายประเทศ
- ผลกระทบต่อสุขภาพจิต: การศึกษาล่าสุดพบความเชื่อมโยงระหว่างมลพิษทางอากาศในเมืองกับปัญหาสุขภาพจิต
Citations:
[1] https://www.hindustantimes.com/delhi-news/how-china-managed-to-consistently-reduce-pm-2-5-concentrations-in-recent-years/story-dtWOaWt6JyMrHyJgCCxA4L.html
[2] https://pmc.ncbi.nlm.nih.gov/articles/PMC9081889/
[3] https://thailandcan.org/th/blog/addressing-dust-issues-global-perspectives
[4] https://www.unep.org/news-and-stories/story/five-cities-tackling-air-pollution
[5] https://sustainable.kmutt.ac.th/clearing-the-air-innovative-strategies-to-combat-pm-2-5-pollution/
[6] https://policywatch.thaipbs.or.th/article/life-19
[7] https://earth.org/how-china-is-winning-its-battle-against-air-pollution/
[8] https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ/1998193
[9] https://mgronline.com/qol/detail/9620000011307
[10] https://www.eea.europa.eu/publications/managing-air-quality-in-europe
[11] https://www.ccacoalition.org/content/air-pollution-measures-asia-and-pacific
[12] https://iao.bangkok.go.th/content-detail/27289
[13] https://19january2017snapshot.epa.gov/sites/production/files/2016-02/documents/menu_of_control_measures.pdf
[14] https://www.chula.ac.th/wp-content/uploads/2020/01/e-Book_Stay-Safe-in-the-PM2.5-EN.pdf
[15] https://www.sei.org/features/air-pollution-solutions-asia/