มังกรวางหมากเขย่าโลก! จีนทุ่มสุดตัวปั้น ‘กองทัพหุ่นยนต์’ เดิมพันอนาคตชาติ

เผชิญวิกฤตประชากร-แรงงาน สู่ยุทธศาสตร์พลิกโลกอุตสาหกรรม ตั้งเป้าผลิตมวลรวมปี 2025 ครองตลาดเบ็ดเสร็จภายในปี 2027

ท่ามกลางสายตาชาวโลกที่จับจ้อง จีนกำลังเดินหน้าเต็มกำลังในโครงการพัฒนา “หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์” หรือหุ่นยนต์เสมือนมนุษย์ ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงการแสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีล้ำหน้า แต่คือ “ยุทธศาสตร์ชาติ” ครั้งสำคัญที่ถูกวางหมากไว้เพื่อแก้เกมวิกฤตประชากรที่กำลังกัดกินเศรษฐกิจ และปูทางสู่การเป็นเจ้าแห่งยุคหุ่นยนต์ ที่จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ในทุกสมรภูมิ ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรมไปจนถึงชีวิตประจำวัน

วิกฤตแรงงาน จุดชนวนแผนปฏิวัติ

สาเหตุหลักที่ผลักดันให้จีนต้องเดิมพันอนาคตไว้กับหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ มาจากวิกฤตประชากรที่รุนแรงอันเป็นผลพวงจากนโยบายลูกคนเดียวในอดีต กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) คาดการณ์ว่า ภายในปี 2030 ประชากรวัยทำงานของจีนจะหายไปเกือบร้อยล้านคน เทียบเท่ากับประชากรทั้งประเทศเวียดนาม และภายในปี 2050 ประชากรสูงอายุจะครองสัดส่วนเกือบ 40% ของประเทศ ส่งผลโดยตรงต่อการเติบโตของ GDP

ขณะเดียวกัน ค่าแรงที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องได้กัดเซาะความได้เปรียบของจีนในฐานะ “โรงงานโลก” ทำให้บรรษัทข้ามชาติต่างย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่น ส่งผลให้จีนต้องหาทางออกเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน

นักวิเคราะห์ชี้ว่า หุ่นยนต์อุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมไม่ใช่คำตอบอีกต่อไป ด้วยขนาดที่ใหญ่เทอะทะ ขาดความคล่องตัว และทำงานได้เพียงรูปแบบเดียว ทำให้ไม่สามารถตอบสนองต่อตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้ หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์จึงกลายเป็น “คำตอบที่สมบูรณ์แบบ” เพราะสามารถใช้พื้นที่และเครื่องมือร่วมกับมนุษย์ได้ เพียงแค่อัปเดตซอฟต์แวร์ก็สามารถเปลี่ยนสายการผลิตได้ทันทีโดยไม่ต้องรื้อโรงงานใหม่

เปิดเบื้องหลังยุทธศาสตร์ “ปั้นดินให้เป็นดาว”

แผนการของจีนไม่ได้หยุดอยู่แค่ในห้องทดลอง แต่กำลังถูกผลักดันอย่างหนักผ่าน 3 ยุทธศาสตร์หลัก:

1. สังเวียนจริงคือบททดสอบที่ดีที่สุด จีนเปลี่ยนเวทีแข่งขันกีฬาหุ่นยนต์ ทั้งการชกมวยและวิ่งมาราธอน ให้กลายเป็นสนามทดสอบสุดโหด เพื่อให้หุ่นยนต์ได้เผชิญกับสถานการณ์จริงที่ไม่อาจจำลองได้ในห้องแล็บ ไม่ว่าจะเป็นพื้นลื่น สิ่งกีดขวาง หรือการทำงานทนทานภายใต้สภาวะอากาศจริง การแข่งขันที่เปิดเผยต่อสาธารณะยังสร้างแรงกดดันมหาศาลให้นักวิจัยต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งปรัชญาแบบจีนที่ว่า “ยิ่งล้มเหลวมาก ยิ่งเรียนรู้เร็ว” คือหัวใจของการเร่งพัฒนา

2. อัดฉีดเงินทุนมหาศาล รัฐบาลจีนประกาศจัดตั้งกองทุนเฉพาะกิจสำหรับหุ่นยนต์และ AI มูลค่ามหาศาลกว่า 1 ล้านล้านหยวน (ราว 1.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) พร้อมออกแผนพัฒนาหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ฉบับแรกในประวัติศาสตร์เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 ตั้งเป้าหมายชัดเจนในการ “ผลิตจำนวนมาก (Mass Production) ภายในปี 2025” และ “สร้างห่วงโซ่อุปทานที่สมบูรณ์ภายในปี 2027”

3. สร้าง “มันสมอง” อัจฉริยะ จีนได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยหุ่นยนต์ขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ เพื่อรวบรวมหุ่นยนต์กว่า 100 ชนิดมาฝึกฝนทักษะ และสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้าง “สมองกล” ที่เชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้หุ่นยนต์เรียนรู้และพัฒนาได้อย่างก้าวกระโดด

จาก “โรงงานโลก” สู่ “เจ้าแห่งยุคหุ่นยนต์”

แม้ปัจจุบันเทคโนโลยีจะยังไม่สมบูรณ์แบบ เห็นได้จากอัตราการล้มที่ยังสูงในการแข่งขัน แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่านี่คือสัญญาณของการเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ Goldman Sachs คาดการณ์ว่าภายในปี 2035 ตลาดหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ยุทธศาสตร์ของจีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่การผลิตเพื่อใช้ในประเทศ แต่เป็นการ “กลืนเทคโนโลยี” และ “ส่งออกเพื่อครองโลก” ดังที่เห็นจากการเข้าซื้อกิจการ KUKA ผู้ผลิตหุ่นยนต์รายใหญ่ของเยอรมนี และการเร่งพัฒนาชิปเป็นของตนเองเพื่อลดการพึ่งพาจากภายนอก

ปัจจุบัน หุ่นยนต์บริการของจีนได้แพร่กระจายไปทำงานทั่วโลกแล้ว ตั้งแต่ศูนย์โลจิสติกส์ในคูเวต ไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ตในเซอร์เบีย สะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานที่จะครองตลาดโลก เช่นเดียวกับที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับสมาร์ทโฟนและเครื่องใช้ไฟฟ้า

สถานการณ์นี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องของเทคโนโลยีอีกต่อไป แต่เป็นการเดิมพันอนาคตของแรงงานทั้งโลก เมื่อจีนสามารถควบคุมเทคโนโลยีนี้ได้อย่างสมบูรณ์ คำถามสำคัญอาจไม่ใช่แค่ว่า “เราจะปรับตัวอย่างไร” แต่อาจเป็น “เรายังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่” ก่อนที่โลกจะก้าวเข้าสู่ยุคที่มนุษย์ต้องแข่งขันกับจักรกลที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำงานได้ดีกว่า ถูกกว่า และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ข้อมูลจาก Thairath Money

ชวนเพื่อนๆเข้ากลุ่มไลน์ เพื่อรับข่าวสาร AI และวิธีใช้งาน AI ได้ทาง

หรือกดที่ลิ้งค์ https://line.me/ti/g2/oDOiEXWEWPAbslz-3LtaOShg4qxIx1YOMA71UA?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

Piyapon pongkaew

บรรณาธิการ / คอลัมนิสต์ ThinkerFriend

New Media Scholar and Data Analyst: MEDIA AI

นักพัฒนานวัตกรรม AI ThinkerFriend – เพื่อนคิด

Profile ประวัติการทำงาน

contact : numsiam.pr@gmail.com

ThinkerFriend.com สังคมแห่งการแบ่งปัน เรื่องราวดีๆ โดยนักคิด นักเรียน และความรู้เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับชาว ThinkerFriend ทุกคน

ยอดติดตามทุกช่องทางกว่า 50,000 follow up

สนใจติดต่อ

numsiam.pr@gmail.com