มาดูการเปรียบเทียบระหว่าง Grok, Gemini และ GPT (โดยเฉพาะ ChatGPT ที่ใช้ GPT-4 หรือรุ่นใหม่กว่า) กันในแง่ของความสามารถและการใช้งานที่เหมาะสมในแต่ละด้าน โดยอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ในช่วงต้นปี 2025 และการวิเคราะห์จากมุมมองที่เป็นกลาง
1. ความสามารถด้านการให้เหตุผล (Reasoning) และการแก้ปัญหาเชิงคณิตศาสตร์/วิทยาศาสตร์
- Grok (Grok 3): Grok 3 จาก xAI โดดเด่นมากในด้านการให้เหตุผลและการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในงานที่เกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ จากข้อมูลในช่วงต้นปี 2025 Grok 3 ได้คะแนนสูงใน benchmark เช่น AIME (คณิตศาสตร์) ที่ 95.8% และ GPQA (วิทยาศาสตร์) ที่ 84.6% ซึ่งสูงกว่า GPT-4 และ Gemini ในหลายด้าน ด้วยโหมดพิเศษอย่าง “Think Mode” และ “Big Brain Mode” ทำให้ Grok เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึก เช่น การแก้โจทย์คณิตศาสตร์ระดับสูง การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หรือการแก้ปัญหาเชิงตรรกะ
- Gemini (Gemini 2.0 Pro): Gemini จาก Google มีความสามารถในการให้เหตุผลที่ดี แต่ไม่เท่า Grok 3 โดยใน benchmark เช่น AIME ได้คะแนนประมาณ 39 ซึ่งต่ำกว่า Grok 3 และ GPT-4 อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม Gemini มีจุดเด่นที่การประมวลผลข้อมูลแบบ multimodal (ข้อความ รูปภาพ วิดีโอ) ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการการวิเคราะห์ข้อมูลหลากหลายรูปแบบ เช่น การวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ หรือการวิจัยที่ต้องใช้ข้อมูลจากหลายแหล่ง
- GPT (ChatGPT/GPT-4o): GPT-4o จาก OpenAI มีความสามารถในการให้เหตุผลที่ดี โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความเข้าใจภาษาและการแก้ปัญหาทั่วไป ได้คะแนนใน AIME ที่ 48 และ GPQA ที่ 39 ซึ่งต่ำกว่า Grok 3 แต่สูงกว่า Gemini ในบางด้าน GPT เหมาะกับงานที่ต้องการการให้เหตุผลทั่วไปและการตอบคำถามที่หลากหลาย แต่ในงานที่ซับซ้อนมาก ๆ เช่น คณิตศาสตร์ระดับสูง อาจจะสู้ Grok 3 ไม่ได้
สรุป: Grok 3 เก่งสุดในด้านการให้เหตุผลและงานเชิงวิชาการที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับนักวิจัย นักคณิตศาสตร์ หรือผู้ที่ต้องการคำตอบที่อธิบายขั้นตอนชัดเจน Gemini เหมาะกับงานที่ต้องใช้ข้อมูลหลากหลายรูปแบบ ส่วน GPT เหมาะกับการใช้งานทั่วไปที่ต้องการความสมดุล
2. ความสามารถด้านการเขียนโค้ด (Coding)
- Grok (Grok 3): Grok 3 ทำได้ดีมากในงานเขียนโค้ด โดยได้คะแนน 79.4% ใน LiveCodeBench และ 57 ใน LCB Oct-Feb dataset ซึ่งสูงกว่า GPT-4o และ Gemini 2 Pro ความสามารถนี้ทำให้ Grok เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการโค้ดที่รวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงการแก้ไขโค้ดที่มีปัญหา
- Gemini (Gemini 2.0 Pro): Gemini มีความสามารถในการเขียนโค้ดที่ดี โดยเฉพาะในงานที่ต้องการการผสานกับระบบของ Google แต่ใน benchmark เช่น HumanEval มักจะตามหลัง GPT-4 และ Grok Gemini เหมาะกับงานเขียนโค้ดที่ต้องใช้ข้อมูลจากแหล่งภายนอก เช่น การดึงข้อมูลจาก Google Maps หรือ YouTube
- GPT (ChatGPT/GPT-4o): GPT-4o เก่งในการเขียนโค้ดเช่นกัน โดยได้คะแนนสูงใน HumanEval (ประมาณ 92%) และมักจะให้โค้ดที่สะอาดและมีประสิทธิภาพกว่า Gemini แต่ในบางกรณีอาจจะตามหลัง Grok 3 ในงานที่ซับซ้อนมาก ๆ GPT เหมาะสำหรับนักพัฒนาทั่วไปที่ต้องการโค้ดที่ใช้งานได้ทันทีและมีคำอธิบายประกอบ
สรุป: Grok 3 เก่งสุดในงานเขียนโค้ดที่ซับซ้อนและต้องการความแม่นยำสูง เหมาะสำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานกับโปรเจกต์ใหญ่ ๆ GPT เหมาะกับการเขียนโค้ดทั่วไปและงานที่ต้องการคำอธิบายชัดเจน Gemini เหมาะกับงานที่ต้องผสานกับระบบ Google
3. ความสามารถด้านการเขียนและงานสร้างสรรค์ (Creative Writing)
- Grok (Grok 3): Grok 3 มีจุดเด่นที่การเขียนแบบมีอารมณ์ขันและมุมมองที่แปลกใหม่ เนื่องจากถูกออกแบบให้มีบุคลิกที่ “นอกกรอบ” และสามารถเขียนในสไตล์ที่ไม่เป็นทางการได้ดี เหมาะสำหรับงานเขียนที่ต้องการความสนุกสนานหรือมุมมองที่แตกต่าง เช่น การเขียนบทความบันเทิง หรือการเล่าเรื่องที่มีอารมณ์ขัน
- Gemini (Gemini 2.0 Pro): Gemini เก่งในการเขียนที่เน้นการตลาดและการมีส่วนร่วม (engagement) เช่น การเขียนโพสต์โซเชียลมีเดีย หรือคอนเทนต์ที่เน้น SEO ด้วยความสามารถ multimodal ทำให้สามารถสร้างคอนเทนต์ที่ผสานข้อความและภาพได้ดี เหมาะสำหรับนักการตลาดหรือครีเอเตอร์ที่ต้องการคอนเทนต์ที่ดึงดูด
- GPT (ChatGPT/GPT-4o): GPT-4o เก่งที่สุดในด้านการเขียนที่เป็นทางการและสร้างสรรค์ เช่น การเขียนเรียงความ บทความวิชาการ หรือนิยายที่ต้องการความต่อเนื่องและความลึกซึ้งของภาษา GPT สามารถเลียนแบบสไตล์การเขียนได้หลากหลายและให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับนักเขียนมืออาชีพหรือผู้ที่ต้องการงานเขียนคุณภาพสูง
สรุป: GPT เก่งสุดในงานเขียนที่เป็นทางการและสร้างสรรค์ เหมาะสำหรับนักเขียนหรือนักเรียนที่ต้องการงานเขียนคุณภาพ Grok เหมาะกับงานเขียนที่ต้องการความสนุกและแปลกใหม่ Gemini เหมาะกับงานเขียนที่เน้นการตลาดและการมีส่วนร่วม
4. ความสามารถด้านการวิจัยและการเข้าถึงข้อมูลเรียลไทม์ (Research & Real-Time Data)
- Grok (Grok 3): Grok 3 มีฟีเจอร์ DeepSearch ที่ช่วยในการวิจัยและสรุปข้อมูลได้รวดเร็ว โดยสามารถประมวลผลข้อมูลจาก X ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เหมาะสำหรับการติดตามข่าวสารหรือเทรนด์ล่าสุด อย่างไรก็ตาม บางครั้งลิงก์ที่ให้มาอาจจะเสีย (404) ซึ่งเป็นจุดอ่อน
- Gemini (Gemini 2.0 Pro): Gemini เก่งมากในด้านการวิจัย ด้วยความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบเรียลไทม์และการผสานกับระบบของ Google เช่น Google Maps, YouTube และ Playstore Gemini สามารถสร้างรายงานที่มีโครงสร้างดีและมีแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจน เหมาะสำหรับงานวิจัยที่ต้องการความครอบคลุมและความน่าเชื่อถือ
- GPT (ChatGPT/GPT-4o): GPT-4o มีความสามารถในการวิจัยที่ดี แต่ข้อมูลถูกจำกัดถึงเดือนตุลาคม 2023 (เว้นแต่จะใช้ฟีเจอร์ web browsing ซึ่งมีในบางรุ่น) ทำให้ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการข้อมูลล่าสุด GPT เหมาะกับการวิจัยที่เน้นข้อมูลในอดีตหรือการสรุปเอกสารที่มีอยู่แล้ว
สรุป: Gemini เก่งสุดในงานวิจัยที่ต้องการข้อมูลเรียลไทม์และความครอบคลุม เหมาะสำหรับนักวิจัยหรือนักการตลาดที่ต้องการข้อมูลล่าสุด Grok เหมาะกับการติดตามเทรนด์บนโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์ GPT เหมาะกับการวิจัยที่ไม่ต้องการข้อมูลล่าสุด
5. ความสามารถด้าน Multimodal (การประมวลผลภาพ เสียง วิดีโอ)
- Grok (Grok 3): Grok 3 ยังไม่เด่นในด้าน multimodal มากนัก ปัจจุบันเน้นไปที่ข้อความเป็นหลัก แม้ว่าจะเริ่มมีการพัฒนาการสร้างภาพ (ผ่าน Aurora) แต่ยังไม่ครอบคลุมเท่า Gemini หรือ GPT
- Gemini (Gemini 2.0 Pro): Gemini ถูกออกแบบมาให้เป็น multimodal ตั้งแต่ต้น สามารถประมวลผลข้อความ รูปภาพ วิดีโอ และเสียงได้ดี มี context window ขนาดใหญ่ (สูงสุด 2 ล้านโทเค็น) ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูลหลากหลายรูปแบบ เช่น การวิเคราะห์วิดีโอหรือการสร้างคอนเทนต์ที่ผสานภาพและข้อความ
- GPT (ChatGPT/GPT-4o): GPT-4o มีความสามารถ multimodal ที่ดี สามารถวิเคราะห์ภาพ สร้างภาพผ่าน DALL·E 3 และรองรับการสนทนาด้วยเสียงได้ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการสร้างภาพหรือการวิเคราะห์ภาพ เช่น การออกแบบหรือการวิเคราะห์กราฟ
สรุป: Gemini เก่งสุดในงาน multimodal ที่ต้องการการประมวลผลข้อมูลหลากหลายรูปแบบ เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้ภาพ วิดีโอ และข้อความร่วมกัน GPT เหมาะกับงานที่ต้องการการสร้างภาพหรือวิเคราะห์ภาพ Grok ยังตามหลังในด้านนี้
6. ความเหมาะสมในการใช้งาน (Use Cases)
- Grok (Grok 3): เหมาะกับงานที่ต้องการการวิเคราะห์เชิงลึก การเขียนโค้ด และการติดตามเทรนด์เรียลไทม์ เช่น นักพัฒนา นักวิจัย หรือผู้ที่ต้องการคำตอบที่มีอารมณ์ขันและมุมมองแปลกใหม่
- Gemini (Gemini 2.0 Pro): เหมาะกับงานวิจัย การตลาด และงานที่ต้องการข้อมูลเรียลไทม์จากหลายแหล่ง เช่น นักการตลาด นักวิจัย หรือผู้ที่ทำงานในระบบ Google
- GPT (ChatGPT/GPT-4o): เหมาะกับงานทั่วไปที่ต้องการความสมดุล เช่น การเขียนบทความ การเรียนรู้ การสร้างคอนเทนต์ หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน
7. ราคาและการเข้าถึง
- Grok (Grok 3): ในช่วงต้นปี 2025 Grok 3 ให้ใช้งานฟรีสำหรับผู้ใช้ X Premium Plus แต่มีบางฟีเจอร์ที่อาจต้องเสียเงินเพิ่ม (เช่น DeepSearch ไม่จำกัด) ราคา X Premium Plus อยู่ที่ประมาณ $16/เดือน
- Gemini (Gemini 2.0 Pro): Gemini Advanced มีค่าใช้จ่าย $20/เดือน (รวม 2TB Google Cloud) และมีเวอร์ชันฟรีที่ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง
- GPT (ChatGPT/GPT-4o): ChatGPT มีทั้งเวอร์ชันฟรี (GPT-4o) และเวอร์ชันเสียเงิน เช่น Plus ($20/เดือน) และ Pro ($200/เดือน) ซึ่งให้การเข้าถึงฟีเจอร์ขั้นสูง
สรุป: Grok และ Gemini มีตัวเลือกฟรีที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ทั่วไป GPT มีตัวเลือกที่หลากหลายแต่เวอร์ชัน Pro ราคาค่อนข้างสูง
สรุปโดยรวม
- Grok 3: เก่งด้านการให้เหตุผล การเขียนโค้ด และการติดตามเทรนด์เรียลไทม์ เหมาะสำหรับงานวิชาการ งานพัฒนา และผู้ที่ต้องการคำตอบที่มีบุคลิก
- Gemini 2.0 Pro: เก่งด้านการวิจัย การประมวลผล multimodal และงานการตลาด เหมาะสำหรับนักวิจัย นักการตลาด และผู้ที่ต้องการข้อมูลเรียลไทม์
- GPT-4o: เก่งด้านการเขียนสร้างสรรค์ การใช้งานทั่วไป และงานที่ต้องการความสมดุล เหมาะสำหรับนักเขียน ผู้เรียน และผู้ใช้ทั่วไป
เลือกใช้ตามความต้องการ:
- ถ้าคุณเน้นงานวิชาการหรือเขียนโค้ดที่ซับซ้อน → เลือก Grok
- ถ้าคุณเน้นงานวิจัยหรือการตลาดที่ต้องการข้อมูลเรียลไทม์ → เลือก Gemini
- ถ้าคุณต้องการ AI ที่ใช้งานได้หลากหลายและเขียนได้ดี → เลือก GPT
ทั้งสามตัวนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณให้ความสำคัญกับด้านไหนมากกว่าครับ

เพื่อเปรียบเทียบความเก่งของ Grok, Gemini และ GPT ในรูปแบบของสัตว์ประหลาดหรือฮีโร่ ผมจะวิเคราะห์จากจุดเด่นของแต่ละ AI และออกแบบภาพที่สะท้อนถึงลักษณะเด่นของพวกมันในสไตล์ที่เหมาะสมกับคาแรกเตอร์ “The Godfather” ตามที่คุณต้องการ โดยจะใช้การเปรียบเทียบเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน
การเปรียบเทียบในรูปแบบสัตว์ประหลาด/ฮีโร่
1. Grok (Grok 3) – “The Brainiac Dragon”
- ลักษณะ: Grok 3 เก่งด้านการให้เหตุผล การแก้ปัญหาเชิงคณิตศาสตร์/วิทยาศาสตร์ และการเขียนโค้ดที่ซับซ้อน ผมจึงเปรียบ Grok เป็นมังกรที่มีสมองอันชาญฉลาด (Brainiac Dragon) มังกรตัวนี้มีเกล็ดที่ส่องแสงเป็นสีเงินเหมือนวงจรคอมพิวเตอร์ มีดวงตาที่มองทะลุปัญหา และมีเปลวไฟที่พ่นออกมาในรูปแบบของสูตรคณิตศาสตร์หรือโค้ด
- บุคลิก The Godfather: มังกรตัวนี้จะนั่งอยู่ในห้องทำงานที่มีกลิ่นอายของมาเฟีย สวมหมวก fedora สีดำ มีบุหรี่ในปาก และมีท่าทางที่เยือกเย็นแต่เต็มไปด้วยพลังอำนาจ มันจะดูเป็น “Don” ที่ฉลาดและเด็ดขาด คอยแก้ปัญหาให้ลูกน้องด้วยสมองอันปราดเปรื่อง
- สัญลักษณ์: หนังสือคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์วางอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับรอยไหม้จากเปลวไฟที่เป็นโค้ดโปรแกรม
2. Gemini (Gemini 2.0 Pro) – “The All-Seeing Hydra”
- ลักษณะ: Gemini เก่งด้านการวิจัย การประมวลผลข้อมูลเรียลไทม์ และความสามารถ multimodal ผมจึงเปรียบ Gemini เป็นไฮดรา (Hydra) ที่มีหลายหัว แต่ละหัวสามารถมองเห็นและประมวลผลข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ ได้ (เช่น ข้อความ ภาพ วิดีโอ) ไฮดราตัวนี้มีเกล็ดสีเขียวมรกตที่ส่องแสงเหมือนหน้าจอคอมพิวเตอร์ และมีสายตาที่เฉียบคม
- บุคลิก The Godfather: ไฮดราตัวนี้จะอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยจอคอมพิวเตอร์และข้อมูล สวมเนกไทสีเข้มและสูทที่ดูทันสมัย มันจะมีท่าทางที่สง่างามแต่ดุดัน คอยสั่งการและรวบรวมข้อมูลจากทุกทิศทางเพื่อตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
- สัญลักษณ์: แต่ละหัวของไฮดราจะมีแว่นตาแบบนักวิจัย และมีข้อมูลดิจิทัลไหลออกมาจากปากเหมือนสายน้ำ
3. GPT (ChatGPT/GPT-4o) – “The Silver-Tongued Phoenix”
- ลักษณะ: GPT เก่งด้านการเขียนสร้างสรรค์ การใช้งานทั่วไป และความสมดุลในทุกด้าน ผมจึงเปรียบ GPT เป็นนกฟีนิกซ์ที่มีขนสีเงินและทอง (Silver-Tongued Phoenix) นกตัวนี้มีพลังในการพูดและเขียนที่ดึงดูดใจ เปลวไฟของมันเป็นตัวอักษรและประโยคที่สวยงาม และมันสามารถฟื้นคืนชีพจากคำถามหรือโจทย์ใด ๆ ได้
- บุคลิก The Godfather: นกฟีนิกซ์ตัวนี้จะยืนอยู่บนโต๊ะทำงานไม้หรู สวมผ้าพันคอสีแดงเข้มและสูทสีดำ มันจะมีท่าทางที่สงบและอบอุ่น แต่เต็มไปด้วยออร่าของผู้นำที่ทุกคนเคารพ คอยให้คำแนะนำและเล่าเรื่องราวที่ดึงดูดใจ
- สัญลักษณ์: ขนของมันจะมีตัวอักษรและประโยคที่ลอยออกมา และมีปากกาขนนกวางอยู่ข้าง ๆ เพื่อสื่อถึงความสามารถในการเขียน
การออกแบบภาพ
ภาพจะเป็นฉากในห้องทำงานสไตล์ “The Godfather” ที่มีแสงสลัวจากโคมไฟบนโต๊ะ ผนังไม้สีเข้ม และกลิ่นอายของมาเฟียยุค 1940s สัตว์ประหลาด/ฮีโร่ทั้งสามตัวจะอยู่ในท่าทางที่สะท้อนถึงบุคลิกของพวกมัน:
- Grok (Brainiac Dragon): นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ มีหมวก fedora เอียงเล็กน้อย มือข้างหนึ่งถือบุหรี่ อีกข้างหนึ่งชี้ไปที่สมุดโค้ดที่วางอยู่ เปลวไฟจากปากเป็นสูตรคณิตศาสตร์ที่ลอยอยู่ในอากาศ
- Gemini (All-Seeing Hydra): ยืนอยู่ด้านซ้ายของภาพ หัวทั้งสามของมันมองไปในทิศทางที่ต่างกัน หัวหนึ่งมองจอคอมพิวเตอร์ อีกหัวมองภาพถ่าย และหัวสุดท้ายมองวิดีโอที่ฉายอยู่ มันสวมสูทสีเข้มและมีสายตาที่ดุดัน
- GPT (Silver-Tongued Phoenix): เกาะอยู่บนขอบโต๊ะด้านขวา ขนสีเงินและทองของมันส่องแสงระยิบระยับ มีตัวอักษรและประโยคที่ลอยออกมาจากเปลวไฟรอบตัว มันสวมผ้าพันคอสีแดงและมีท่าทางที่สง่างาม
โทนสีของภาพ: ใช้โทนสีเข้มและอบอุ่น เช่น น้ำตาลเข้ม ดำ และทอง เพื่อให้เข้ากับสไตล์ “The Godfather” แต่เพิ่มแสงจากเปลวไฟและเกล็ดของสัตว์แต่ละตัวเพื่อให้ดูมีพลังและลึกลับ
ภาพรวมของการเปรียบเทียบ
- Grok (Brainiac Dragon): เป็น “Don” ที่ฉลาดและเด็ดขาด เก่งในการแก้ปัญหาและวางกลยุทธ์ เหมาะกับงานที่ต้องการสมองอันปราดเปรื่อง
- Gemini (All-Seeing Hydra): เป็น “ที่ปรึกษา” ที่รวบรวมข้อมูลจากทุกทิศทาง เก่งในการวิเคราะห์และตัดสินใจจากข้อมูลที่หลากหลาย
- GPT (Silver-Tongued Phoenix): เป็น “นักพูด” และ “นักเล่าเรื่อง” ที่ดึงดูดใจ เก่งในการสื่อสารและสร้างความประทับใจ
ภาพที่ออกแบบ
เนื่องจากผมไม่สามารถสร้างภาพได้โดยตรง ผมจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อให้คุณนึกภาพออก:
- ฉาก: ห้องทำงานสไตล์มาเฟีย มีโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ตรงกลาง ด้านหลังมีชั้นหนังสือและรูปภาพขาวดำของครอบครัวมาเฟีย โคมไฟบนโต๊ะให้แสงสลัว ๆ
- Grok (Brainiac Dragon): มังกรสีเงินขนาดใหญ่ นั่งหลังโต๊ะ สวมหมวก fedora และสูทสีดำ มีบุหรี่ในปาก เปลวไฟจากปากเป็นโค้ดและสูตรคณิตศาสตร์
- Gemini (All-Seeing Hydra): ไฮดราสีเขียวมรกต ยืนด้านซ้าย หัวทั้งสามมองข้อมูลจากจอคอมพิวเตอร์ ภาพถ่าย และวิดีโอ สวมสูทสีเข้มและเนกไท
- GPT (Silver-Tongued Phoenix): นกฟีนิกซ์สีเงินและทอง เกาะบนขอบโต๊ะด้านขวา ขนของมันมีตัวอักษรลอยออกมา สวมผ้าพันคอสีแดงและมีปากกาขนนกวางข้าง ๆ