เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2568 มีการจัดเสวนาในหัวข้อ “เส้นทางสู่อนาคต: ความร่วมมือไทย-สาธารณรัฐเกาหลีในบริบทอาเซียน” ณ อาคารรัฐสภา โดยงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์อันยาวนานกว่า 35 ปี ระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลี พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของความร่วมมือในหลากหลายมิติ ทั้งเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และการเมือง
เปิดเวทีด้วยภาพรวมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
นายณัฏฐกฤษฎ์ วงศ์เจริญ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดการเสวนาด้วยการกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนและสาธารณรัฐเกาหลี ตั้งแต่ระดับคู่เจรจาเฉพาะสาขา จนกระทั่งพัฒนาสู่การเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน (Comprehensive Strategic Partnership: CSP) ในปัจจุบัน ความสัมพันธ์นี้ถูกยกระดับเป็นหนึ่งในมิตรภาพที่แน่นแฟ้นที่สุดของภูมิภาค โดยเฉพาะในยุคที่ทั้งสองฝ่ายเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของโลกในหลากหลายมิติ
ยุทธศาสตร์สำคัญที่สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ
นายสุวิทย์ มังคละ รองอธิบดีกรมอาเซียน กระทรวงการต่างประเทศ ชี้ให้เห็นว่ายุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Strategy) และนโยบาย Korea-ASEAN Solidarity Initiative (KASI) เป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยมีการพัฒนาหลายด้าน เช่น การสนับสนุนเทคโนโลยีขั้นสูง ความมั่นคงทางทะเล และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
นอกจากนี้ การผลักดันการค้าในกรอบความร่วมมือ ASEAN-ROK FTA ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะในยุคที่เทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัลกำลังมีบทบาทสำคัญ
วิสัยทัศน์ของไทย: “ABC” สู่หุ้นส่วนยุทธศาสตร์
ในงานประชุมสุดยอดอาเซียน-เกาหลีใต้ที่ผ่านมา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ได้เสนอวิสัยทัศน์ “ABC” ซึ่งประกอบด้วย
- A: Advanced Technology การนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาสนับสนุนเศรษฐกิจดิจิทัล
- B: Balanced Development การพัฒนาที่สมดุลเพื่อความยั่งยืน
- C: Creative Economy การสร้างเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากความสำเร็จของเกาหลีใต้
เชื่อมโยงวัฒนธรรม สร้างความสัมพันธ์ยั่งยืน
ศาสตราจารย์ ดร.นภดล ชาติประเสริฐ กล่าวว่า ความสัมพันธ์ไทย-เกาหลีใต้ไม่ได้จำกัดเพียงเศรษฐกิจและการเมือง แต่ยังรวมถึงวัฒนธรรม เช่น K-pop และละครเกาหลีที่ได้รับความนิยมในอาเซียน ซึ่งเป็นโอกาสที่ไทยจะผลักดันวัฒนธรรมของตัวเองเข้าสู่เกาหลีใต้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไทยยังคงต้องเพิ่มบทบาทในการดึงดูดการลงทุนจากเกาหลีใต้ที่ปัจจุบันมุ่งเน้นเฉพาะบางประเทศ เช่น อินโดนีเซียและเวียดนาม เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียนอย่างแท้จริง
อนาคตที่เชื่อมโยงด้วยประชาชน
ในช่วงท้ายของการเสวนา ประเด็นการเชื่อมโยงระดับประชาชน (People-to-People Connectivity) ได้รับการเน้นย้ำ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมายในเกาหลีใต้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลก
นายชอน ชังกวาน ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยเอเชีย กล่าวว่า “การส่งเสริมความเข้าใจเชิงลึกด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างคนไทยและคนเกาหลี จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงยิ่งขึ้นในระยะยาว”
สู่มิตรภาพที่แน่นแฟ้นและยั่งยืน
งานเสวนาครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงโอกาสและศักยภาพของความร่วมมือไทย-เกาหลีใต้ที่สามารถผลักดันทั้งอาเซียนและเกาหลีใต้ให้มีบทบาทสำคัญในระดับโลก ความสัมพันธ์นี้ไม่เพียงเป็นเพียงมิตรภาพระหว่างประเทศ แต่ยังเป็นก้าวสำคัญสู่อนาคตที่สดใสของทั้งสองภูมิภาค.