เจาะลึกวิถี “มนุษย์เป็ด” ยุค AI พลิกการเรียนรู้สู่ความสำเร็จรอบด้าน : ทอย กษิดิศ DataRockie

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในทุกมิติของชีวิต การปรับตัวและพัฒนาทักษะอย่างไม่หยุดยั้งกลายเป็นสิ่งจำเป็น นายกษิดิศ สดามงคล หรือที่รู้จักกันในนาม “ทอย DataRockie” ผู้ก่อตั้งคอมมูนิตี้การเรียนรู้ชื่อดัง และเป็นตัวอย่างของ “มนุษย์เป็ด” ผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้าน ได้มาแบ่งปันประสบการณ์และทัศนะอันเฉียบคมในรายการ “EXเป็ด ซีซั่น 5 EP3” ถึงแนวทางการเป็น “เป็ดที่เก่ง” การใช้ AI เพื่อต่อยอดการเรียนรู้ และความสำคัญของการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้คนสามารถอยู่รอดและเติบโตในโลกยุคดิจิทัล

จากนักเศรษฐศาสตร์ สู่เส้นทาง “เป็ด” ผู้รอบรู้

คุณทอยเล่าถึงจุดเริ่มต้นที่มิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบของการเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง แม้จะสำเร็จการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์เมื่อกว่าทศวรรษที่แล้ว และศึกษาต่อปริญญาโทด้านเดียวกันที่ประเทศอังกฤษ แต่ชีวิตการทำงานได้นำพาเขาไปสัมผัสงานหลากหลายแขนง “จริงๆ ทอยเรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์มา…แล้วก็ไปเรียนต่อโทด้านเศรษฐศาสตร์ที่อังกฤษ กลับมาไทยปุ๊บก็เริ่มงานแบบ Market Research…แล้วก็ขยับมาเรื่อยๆ มาเริ่มทำเรื่อง Data Analytics มากขึ้น” ก่อนที่จะผันตัวมาทำงานกับ Samsung ในปัจจุบัน ควบคู่ไปกับการเป็นคุณพ่อมือใหม่ นักเขียนคอนเทนต์ และผู้สอนที่ DataRockie

จุดเปลี่ยนสำคัญที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็น “มนุษย์เป็ด” คือประสบการณ์ระหว่างศึกษาต่อ ณ ประเทศอังกฤษ “ตอนที่เราไปเรียนอังกฤษ สิ่งเดียวที่ได้กลับมาก็คือเรามีทักษะการเขียนมากขึ้น” คุณทอยระลึก “อาจารย์เมืองนอกเขาอยากให้เราไปอ่านเปเปอร์ อ่านบทความ แล้วมานั่ง discuss กัน…ตอนนั้นเขียนไปปีนึงน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 20 บทความ ทำให้ได้ทักษะการเขียน และทักษะการรีเสิร์ชสกิลกลับมา เพราะมีวิชา Research Methodology ที่ทุกคนต้องเรียน ทำให้เราสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง”

นิยาม “มนุษย์เป็ดที่เก่ง” และพลังของความคิดสร้างสรรค์

คุณทอยได้ให้นิยามของ “มนุษย์เป็ด” ในมุมมองของเขา ซึ่งได้รับอิทธิพลจากหนังสือ “How to be better at the most Everything” ว่าไม่ใช่แค่การรู้หลายอย่างแบบผิวเผิน แต่คือ “คนที่ทำได้หลายสกิล จะมีทักษะในการเอาตัวรอดได้ค่อนข้างดีกว่า ทริกมันคือการเอาสกิลหลายๆ อย่างที่เรามี มาใช้ร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาสักอย่างหนึ่ง” เขายกตัวอย่างรูปธรรมถึงการผสานทักษะการเขียนเข้ากับความรู้ด้านการตลาด จนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญในการทำ SEO (Search Engine Optimization) ซึ่งทำให้คอนเทนต์ของเขาติดอันดับต้นๆ บน Google ได้อย่างสม่ำเสมอ “เว็บไซต์ Toy DataRockie ตอนนี้ ถ้าเสิร์ช One Person Business ก็จะเห็นเป็นอันดับ 1-2”

ยิ่งไปกว่านั้น คุณทอยเน้นว่า “ยิ่งเราเรียนรู้หลายสกิล ทริกก็คือเราจะดึงทักษะพวกนั้นมาใช้งานร่วมกันได้อย่างไร ซึ่งมันมีอีกสกิลหนึ่งที่ผมเรียกว่าเป็น ‘กาว’ ใช้ในการเชื่อมทุกสกิลเข้าด้วยกัน สกิลนี้คือ ความคิดสร้างสรรค์”

AI: ผู้ช่วยทรงพลัง ไม่ใช่ผู้มาทดแทน

เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยี AI ที่กำลังเป็นที่จับตามอง คุณทอยมีมุมมองที่ชัดเจนว่า AI คือเครื่องมืออันทรงพลัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการศึกษาและการพัฒนาตนเอง “สำหรับผม AI เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นผู้ช่วยเรา ไม่ใช่มาทดแทนเรา มนุษย์กับ AI สามารถเป็นเพื่อนอยู่ในโลกนี้ด้วยกันได้” เขาเผยว่าตนเองใช้ AI “ช่วยหาข้อมูล ช่วยทำรีเสิร์ช ทำให้เราเก่งขึ้น” โดยมี prompt ประจำตัวคือ “Teach me” หรือ “Explain this concept to me” เพื่อให้ AI ช่วยสอนเรื่องใหม่ๆ “ถ้าเราให้มันสอนเราวันละ 1 เรื่อง ปีนั้นเราจะได้เรียน 365 เรื่องใหม่”

อย่างไรก็ตาม คุณทอยได้เตือนสติถึงการใช้ AI อย่างมีวิจารณญาณ “พอยต์ของผมคือ A ตัวแรก (ใน AI) ย่อมาจาก Artificial แปลว่าสำหรับผม Real Intelligence สำคัญกว่ามาก เราควรใช้ AI ยังไงเพื่อช่วยให้เราเก่งขึ้น” เขายกตัวอย่างสถานการณ์หากอินเทอร์เน็ตล่มแล้วไม่สามารถเข้าถึง AI ได้ จะทำให้การทำงานหยุดชะงักหรือไม่ “ถ้าวันหนึ่งไม่มี AI เราควรจะต้องทำงานสิ่งนั้นได้เหมือนเดิม” สำหรับประเทศไทย เขาเสนอว่า “การเป็น User ที่ดี เรียนรู้ทักษะการใช้งาน AI ให้เก่งขึ้นเรื่อยๆ ก็น่าจะดีกว่าการพยายามสร้างโมเดล AI ของเราเองในทุกเรื่อง เพราะ Resource เราอาจไม่เท่าเขา”

คุณทอยยังชี้ให้เห็นถึงเจตนา (Intention) ในการใช้ AI ว่ามีความสำคัญ “Use case ที่สำคัญที่สุดของ AI คือการใช้เพื่อช่วยให้เราเก่งขึ้น เพื่อการศึกษา ไม่ใช่แค่เอาไปใช้ทำการตลาดสร้างรูปสวยๆ เพื่อดึงดูด Attention เพียงอย่างเดียว”

DataRockie: ปณิธานสร้างแหล่งเรียนรู้เพื่อคนไทย

ในฐานะผู้ก่อตั้ง DataRockie คุณทอยกล่าวว่า คอมมูนิตี้นี้เกิดขึ้นจากความปรารถนาที่จะสร้างพื้นที่สำหรับ “เพื่อนๆ ที่รักการพัฒนาตัวเอง” มีเป้าหมายสูงสุดคือ “อยากจะสร้างหลักสูตรที่ให้คนไทยได้เรียน คล้ายๆ เป็นโรงเรียนทางเลือก มหาลัยทางเลือก” โดยเน้นวิชาที่เขาเชื่อว่าจำเป็นสำหรับมนุษย์ยุคใหม่ เช่น เศรษฐศาสตร์, Coding, Data, การสร้างธุรกิจ และ AI “ผมจะทำไปเรื่อยๆ มีจุดเริ่มต้น แต่ไม่มีจุดจบ”

ทักษะจำเป็น และปรัชญา “Give to Grow”

สำหรับทักษะที่ทุกคนควรมีติดตัว คุณทอยย้ำถึงความสำคัญของทักษะพื้นฐาน (Fundamental Skills) ได้แก่ การอ่าน, การเขียน, ความเข้าใจข้อมูล (Data Literacy), และเศรษฐศาสตร์ ซึ่งเขามองว่าเป็นวิชาที่ “ทุกคนควรต้องรู้เพื่อให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น” นอกจากนี้ ทักษะการตั้งคำถามที่ดี (Prompt Engineering) จะทวีความสำคัญในการใช้งาน AI อย่างเต็มศักยภาพ และเหนือสิ่งอื่นใดคือ “Learning how to learn” หรือการเรียนรู้วิธีที่จะเรียนรู้

ปรัชญา “Give to Grow” คืออีกหนึ่งหลักการที่คุณทอยยึดถือ “ยิ่งให้ยิ่งได้รับกลับมา ยิ่งเราช่วยให้คนอื่นสำเร็จได้ เราก็จะยิ่งสำเร็จได้มากขึ้น ความสำเร็จของผมวัดจากจำนวนคนที่เราช่วยให้เขามีชีวิตที่ดีขึ้นได้ ไม่ได้วัดจากปริมาณเงิน”

เผชิญหน้าความกลัวด้วยการเตรียมพร้อม และการเรียนรู้ตลอดชีวิต

คุณทอยให้กำลังใจผู้ที่อาจรู้สึกหวั่นเกรงต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วว่า “เวลาเราตกไปในน้ำ คนส่วนใหญ่ไม่ได้กลัวตกน้ำ แต่กลัวว่ายน้ำไม่เก่งแล้วจะจมน้ำตาย วิกฤตเศรษฐกิจ หรือการเปลี่ยนแปลงต่างๆ มันจะมาแน่ๆ คำถามคือ เรากลัววิกฤต หรือกลัวตัวเองไม่พร้อมที่จะรับมือกับมัน ถ้ากลัวตัวเองไม่พร้อม ทำไมเราไม่ทำตัวเองให้พร้อมตั้งแต่วันนี้เลย”

เขาเน้นย้ำว่า “การศึกษาไม่มีวันจบ วันสุดท้ายในชีวิตเราคือวันที่เราสำเร็จการศึกษา” และเสนอแนะให้เปลี่ยนมุมมองต่อการเรียนรู้ จากที่เคยถูกมองว่าเป็น “การบ้าน” หรือ “งาน” ให้กลายเป็น “งานอดิเรก” หรือ “การพักผ่อน” “สำหรับผม การอ่านหนังสือเป็นงานอดิเรก เป็น Leisure” เขากล่าว “แค่เริ่มวันละ 15 นาที ปีหนึ่งคุณจะได้เรียนรู้ถึง 90 ชั่วโมง มันเยอะมาก” และยังแนะนำให้ใช้ “Death Time” หรือเวลาที่สูญเปล่าระหว่างวัน เช่น การเดินทาง ให้เกิดประโยชน์ด้วยการฟังพอดแคสต์หรืออ่านหนังสือ

นอกจากนี้ การเข้าใจแนวคิด “ค่าเสียโอกาส (Opportunity Cost)” จากเศรษฐศาสตร์ จะช่วยให้ตัดสินใจใช้เวลาในชีวิตได้อย่างคุ้มค่า “ทุกอย่างที่เราทำ จะมีผลบางอย่างตามมาเสมอในระยะยาว (Long Term) ใครก็ตามที่เห็นสิ่งนี้ คนนั้นเข้าถึง Wisdom ที่แท้จริง”

คำแนะนำสุดท้ายถึง “มนุษย์เป็ด” และการสร้างสมดุล

ปิดท้ายการสัมภาษณ์ คุณทอยฝากข้อคิดสำคัญถึง “มนุษย์เป็ด” และทุกคนที่กำลังแสวงหาหนทางในการพัฒนาตนเองว่า “อย่ายอมให้ใบปริญญาเป็นตัวกำหนดว่าเราต้องทำอะไร เรียนทุกอย่างที่ใจเรารู้สึกว่าถ้าเรารู้สิ่งนี้ มันจะช่วยให้เราแก้ปัญหาในชีวิตเราได้ง่ายขึ้น” และที่สำคัญที่สุด “ห้ามหยุดเรียนรู้…เอาสิ่งที่วันนี้ฟังแล้วมันใช้ได้ ไปปรับใช้กับชีวิตตัวเอง”

คุณทอยยังทิ้งท้ายด้วยการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการพักผ่อน “การทำงานจะไม่มีความหมายเลยถ้าเราไม่ได้พักผ่อน ต้องบาลานซ์กันให้ดี แต่บาลานซ์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน หาบาลานซ์ของตัวเองให้เจอ” ซึ่งสะท้อนถึงการมองชีวิตอย่างรอบด้าน ไม่ใช่เพียงมุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างหนักหน่วงเพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืน.

ชวนเพื่อนๆเข้ากลุ่มไลน์ เพื่อรับข่าวสาร AI และวิธีใช้งาน AI ได้ทาง

หรือกดที่ลิ้งค์ https://line.me/ti/g2/oDOiEXWEWPAbslz-3LtaOShg4qxIx1YOMA71UA?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

Piyapon pongkaew

บรรณาธิการ / คอลัมนิสต์ ThinkerFriend

New Media Scholar and Data Analyst: MEDIA AI

นักพัฒนานวัตกรรม AI ThinkerFriend – เพื่อนคิด

Profile ประวัติการทำงาน

contact : numsiam.pr@gmail.com

ThinkerFriend.com สังคมแห่งการแบ่งปัน เรื่องราวดีๆ โดยนักคิด นักเรียน และความรู้เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับชาว ThinkerFriend ทุกคน

ยอดติดตามทุกช่องทางกว่า 50,000 follow up

สนใจติดต่อ

numsiam.pr@gmail.com