กรรมาธิการเศรษฐกิจสภาฯ เตือนภัย “ภาษีทรัมป์ 36%” กระทบไทยรุนแรง ชี้รัฐบาลต้องเร่งรับมือ

สถานการณ์เศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้ส่งจดหมายแจ้งรัฐบาลไทยว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าในอัตราสูงถึง 36% สำหรับสินค้าทุกประเภทที่ส่งออกจากไทยไปยังสหรัฐฯ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ซึ่งประเด็นนี้ได้รับความกังวลอย่างยิ่งจากภาคส่วนต่างๆ

นายสิทธิพลกล่าวว่า อัตราภาษี 36% นี้ “น่ากังวล” อย่างยิ่ง เนื่องจากสูงกว่าคู่แข่งหลายประเทศ เช่น เวียดนามที่โดน 20% มาเลเซีย 25% และอินโดนีเซีย 32% ซึ่งประเทศเหล่านี้ส่งออกสินค้าประเภทเดียวกับไทยไปยังสหรัฐฯ การจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าจะทำให้สินค้าไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันในตลาดสหรัฐฯ อย่างมาก

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและผู้ส่งออก

ประเทศไทยส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 18% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด และเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ มาอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมาเกินดุลถึง 1.2 ล้านล้านบาท สินค้าสำคัญที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ และยางรถยนต์ นอกจากผลกระทบระยะสั้นต่อการส่งออกแล้ว ภาษีนี้ยังส่งผลต่อการลงทุนในอนาคต เนื่องจากบริษัทต่างชาติอาจทบทวนการตั้งโรงงานในไทย หากต้องเผชิญกับภาษีส่งออกที่แพงกว่าคู่แข่ง

ข้อสังเกตต่อการเจรจาที่ไม่เป็นผล

นายสิทธิพลตั้งข้อสังเกตว่า การเจรจาลดภาษี 36% ของทีมไทยแลนด์ที่นำโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่เป็นผล เนื่องจากอาจมีการเตรียมตัวน้อยเกินไป และข้อเสนอของไทยยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของสหรัฐฯ ที่ต้องการลดการขาดดุลการค้าให้ได้รวดเร็วและมากขึ้น นอกจากนี้ การที่เวียดนามเสนอการลดภาษีสินค้าอเมริกาเหลือ 0% อาจเป็นมาตรฐานที่สหรัฐฯ คาดหวังจากประเทศอื่นๆ และการเจรจาในรอบแรกที่ล่าช้าเกินไปก็อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ข้อมูลไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจ

ข้อเสนอแนะเร่งด่วนต่อรัฐบาล

ประธานคณะกรรมาธิการฯ เรียกร้องให้ คณะรัฐมนตรีแพทองธาร 2 โดยเฉพาะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เร่งจัดการเรื่องภาษีทรัมป์ 36% เนื่องจากเหลือเวลาไม่ถึง 1 เดือนก่อนวันที่ 1 สิงหาคม 2568 รัฐบาลต้องทำงานแข่งกับเวลา และต้องสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนทุกภาคส่วนว่ามีกระบวนการรับฟังผู้ได้รับผลกระทบอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะภาคเกษตรกร และต้องเตรียมมาตรการเยียวยาที่เพียงพอ

นายสิทธิพลยังเน้นย้ำว่า รัฐบาลไม่จำเป็นต้องรอผลการเจรจา แต่สามารถเริ่มพูดคุยกับผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรงได้ทันที โดยเฉพาะกลุ่ม SME กว่า 5,000 กิจการ ที่กำลังเผชิญกับคำสั่งซื้อที่ลดลง และมีต้นทุนที่ต้องแบกรับ หากไม่เร่งช่วยเหลือ อาจทำให้หลายโรงงานไม่สามารถไปต่อได้

ทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจระยะยาวในระยะยาว นายสิทธิพลเสนอให้รัฐบาลมีแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการส่งออกรายประเภทสินค้าที่ชัดเจน เพื่อหาตลาดใหม่ทดแทนการพึ่งพิงตลาดสหรัฐฯ เช่น การเจรจา FTA กับสหภาพยุโรป และการหาตลาดใหม่สำหรับสินค้าเกษตรอย่างทุเรียน หรืออุตสาหกรรมยานยนต์ในตลาดออสเตรเลียและตะวันออกกลาง นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเอาจริงเอาจังกับการกวดจับสินค้าสวมสิทธิ์ ที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและทำให้ต่างชาติขึ้นภาษีไทย

การทำงานของคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ

นายสิทธิพลได้กล่าวถึงทิศทางการทำงานของคณะกรรมาธิการฯ ว่ายังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง แม้ในช่วงปิดสมัยประชุม โดยมีการตั้งอนุกรรมาธิการเพื่อศึกษาการสนับสนุนอุตสาหกรรมไฮเทคและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก นอกจากนี้ ยังมีอนุกรรมาธิการติดตามผลกระทบจากสงครามการค้า และรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นธุรกิจนอมินีต่างชาติผิดกฎหมาย และสินค้าต่างชาติที่ไม่มี อย. หรือ มอก. ซึ่งได้มีการแก้ไขปัญหาไปแล้วกว่า 600 เรื่อง

สำหรับประชาชนที่มีปัญหาหรือข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจ สามารถยื่นเรื่องได้ผ่านทาง Facebook หรือช่องทางของสภาผู้แทนราษฎร โดยนายสิทธิพลและทีมงานจะนำเรื่องมาติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่

รับฟังรายการย้อนหลังได้ทาง YouTube “TP Radio News”

ชวนเพื่อนๆเข้ากลุ่มไลน์ เพื่อรับข่าวสาร AI และวิธีใช้งาน AI ได้ทาง

หรือกดที่ลิ้งค์ https://line.me/ti/g2/oDOiEXWEWPAbslz-3LtaOShg4qxIx1YOMA71UA?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default

Piyapon pongkaew

บรรณาธิการ / คอลัมนิสต์ ThinkerFriend

New Media Scholar and Data Analyst: MEDIA AI

นักพัฒนานวัตกรรม AI ThinkerFriend – เพื่อนคิด

Profile ประวัติการทำงาน

contact : numsiam.pr@gmail.com

ThinkerFriend.com สังคมแห่งการแบ่งปัน เรื่องราวดีๆ โดยนักคิด นักเรียน และความรู้เรื่องราวที่เป็นประโยชน์ สร้างแรงบันดาลใจ ให้กับชาว ThinkerFriend ทุกคน

ยอดติดตามทุกช่องทางกว่า 50,000 follow up

สนใจติดต่อ

numsiam.pr@gmail.com